เดินท่อลม ได้แน่นอนครับ ในที่นี้ก็หมายถึง ลมอัดหรืออากาศอัด ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Compressed Air โดยทั่วไปความดันจะอยู่ที่ประมาณ 7 บาร์ (100 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว, psi) แต่ก็มีปั๊มลมบางรุ่นที่ทำความดันได้ถึง 12 บาร์ (174 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว, psi) ซึ่งท่อ PAP ก็รับแรงดันนี้ได้สบายครับ
อันที่จริงท่อพีเอพี ทั้ง 3 แบบของ MF Pipe (ท่อน้ำร้อนสีส้ม ท่อน้ำเย็นและอากาศอัดสีขาว และท่อแก๊สสีเหลือง) สามารถใช้เดินท่อลมได้หมด เพราะท่อทั้ง 3 แบบสามารถรับแรงดันได้เท่ากัน แต่แนะนำให้ใช้ท่อสีขาว เพราะราคาถูกที่สุด เนื่องจากไม่จำเป็นต้องอาศัยคุณสมบัติการทนอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียสของท่อสีส้ม หรือคุณสมบัติที่ออกแบบเฉพาะสำหรับแก๊สหุงต้มของท่อสีเหลือง
โดยทั่วไปท่อที่นิยมใช้ในการเดินท่อลมคือ ท่อเหล็กชุบสังกะสี หรือที่เรียกว่าท่อกัลวาไนซ์ และท่อทองแดง จุดเด่นของท่อ PAP เมื่อเทียบกับท่อเหล็กหรือท่อทองแดง มีดังนี้
1. ติดตั้งง่าย ไม่ต้องต๊าบเกลียว หรือเชื่อมด้วยแก๊ส ทำงานได้เร็ว ท่อมาเป็นม้วน เพียงแค่คลี่ออกจากม้วน ดัดโค้งงอได้ด้วยมือเปล่า ไม่ดีดตัวกลับ ลากเลื้อยหลบสิ่งกีดขวางได้ สามารถเดินท่อไกลเป็นร้อย ๆ เมตรโดยไม่ต้องมีข้อต่อได้เลยทีเดียว จะเดินท่อลมเองแบบ DIY หรือให้ช่างทั่วไปที่อยู่ในโรงงานติดตั้งก็ทำได้
2. ข้อต่อสำหรับท่อพีเอพี ของ MF Pipe เป็นพลาสติกไนล่อน ชนิดเดียวกันกับที่ใช้ทำเอ็นตกปลาและไหมขัดฟัน การติดตั้งใช้ขันอัดเกลียวด้วยประแจธรรมดาทั่วไป การที่ผิวในของท่อและข้อต่อเป็นพลาสติกด้วยกัน จึงกันการรั่วซึมของลมได้ดีกว่าโลหะ เนื่องจากจุดสัมผัสมีความยืดหยุ่นมากกว่าโลหะ ที่ภาษาช่างเรียกว่ามันให้ตัวได้นั่นเอง เมื่อถูกขันอัดจะแนบสนิท เสมือนหนึ่งมีซีลกันรั่วในตัว (สังเกตวัสดุที่ใช้ทำซีลมักจะเป็นยางหรือพลาสติก เนื่องจากมันยืดหยุ่น หรือให้ตัวได้มากกว่านั่นเอง)
ข้อต่อพลาสติก MF Pipe จึงเหมาะมากสำหรับงานเดินท่อลม สามารถช่วยลดการสูญเสียพลังงาน อันเนื่องมาจากลมรั่วตามจุดต่าง ๆ ในโรงงานได้
3. ต้นทุนวัสดุ อุปกรณ์และการติดตั้งต่ำกว่า เนื่องจากราคาท่อและข้อต่อไม่แพง ค่าแรงสำหรับการติดตั้งต่ำ ติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว สามารถส่งมอบงานในเวลาอันสั้น
4. การเดินท่อลม ด้วยท่อพีเอพี แทบจะไม่ต้องใช้ข้อต่อตรงและข้องอเลย เนื่องจากท่อ PAP มาเป็นม้วน ตัดใช้ตามความยาวที่ต้องการ สามารถดัดโค้งแล้วอยู่ตัว (ไม่อ่อนตัวเหมือนพวกสายยางหรือสายอ่อน) ผิวท่อชั้นในที่สัมผัสอากาศอัดเรียบลื่น ทำให้ลมไหลได้ดี ความดันตกคร่อมน้อย
5. น้ำหนักเบา ทั้งตัวท่อที่เป็นวัสดุผสมระหว่างพลาสติกกับอลูมิเนียม และข้อต่อที่เป็นพลาสติก ปลอดภัย ขนย้ายง่าย ขณะติดตั้งก็ไม่ต้องใช้คนมาก สามารถเดินท่อไล่ไปเรื่อย ๆ ตามหน้างานจริงได้เลย
6. ท่อไม่เป็นสนิม ทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมี อายุใช้งานยาวนานหลายสิบปี ในระบบท่อลม จะมีการกลั่นตัวของน้ำ ดังนั้น ถ้าเป็นท่อเหล็ก มักจะพบปัญหาของการเกิดสนิม พอเป็นท่อ PAP ก็จะไม่มีปัญหานี้ ลมจะสะอาด ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ลมต่าง ๆ เช่น กระบอกลม เป็นต้น
7. สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไข ซ่อมแซม หรือต่อเติมในอนาคตได้ง่าย ข้อต่อสำหรับท่อพีเอพีของ MF Pipe สามารถถอดออกมา แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หากมีการต่อท่อเพิ่ม ก็เพียงแค่ ตัดท่อ หรือคลายข้อต่อออกมา แล้วต่อท่อเพิ่มเติมได้โดยง่าย
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของท่อ PAP สำหรับการเดินท่อลม เมื่อเทียบกับท่อเหล็กหรือท่อทองแดง คือ
กรณีถ้าต้องเดินท่อลมขนาดใหญ่ด้วยท่อพีเอพี ข้อต่อจะมีขนาดใหญ่มาก และ ณ ปัจจุบัน ทาง MF Pipe ยังไม่ได้ผลิตข้อต่อพลาสติกสำหรับท่อขนาดใหญ่ออกมา จึงยังจำเป็นต้องใช้ข้อต่อทองเหลืองอยู่ ราคาจึงสูง และน้ำหนักมาก ยกตัวอย่างเช่น ข้อต่อสามทางสำหรับท่อพีเอพี ขนาด 1 นิ้วครึ่ง จะมีน้ำหนักเป็นกิโลกรัม และราคาหลายร้อยบาทต่อตัวเลยทีเดียว
ท่อขนาดใหญ่สุดของท่อพีเอพี สำหรับการเดินท่อลมที่เหมาะสม จึงมีขนาดไม่เกิน 2632 หรือเทียบเท่า 1 นิ้ว
ดังนั้น การใช้ท่อพีเอพี เดินท่อลม จึงเหมาะสำหรับระบบอากาศอัดที่ไม่ใหญ่มาก ซึ่งสามารถใช้ท่อพีเอพี เดินท่อหลัก (ท่อเมน) ท่อแขนง และท่อย่อยได้ทั้งหมด หรือถ้าเป็นระบบขนาดใหญ่ ก็สามารถใช้ท่อเหล็กหรือท่อทองแดงเดินเป็นท่อหลัก แล้วใช้ท่อพีเอพี เดินท่อแขนงและท่อย่อยก็ได้
ท่อ PAP สามารถใช้ร่วมกับท่อชนิดอื่นได้ ด้วยการต่อด้วยข้อต่อที่เป็นเกลียว ซึ่งเป็นมาตรฐานเกลียวนิ้ว หรือเกลียวประปา ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในบ้านเรา